Freight forwarder คือใคร ทำหน้าที่อะไร ต่างจาก Shipping หรือไม่

หัวข้อ

freight forwarder

การค้าระหว่างประเทศในปัจจุบันกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการมาถึงของอีคอมเมิร์ซที่ทำให้การซื้อ-ขายสินค้าเป็นไปอย่างง่ายดาย ส่งผลให้เกิดการชิปปิ้งสินค้าเข้า-ออกประเทศมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สำหรับภาคธุรกิจ พูดได้ว่า Freight Forwarder ได้กลายเป็นพันธมิตรสำคัญสำหรับกิจการในการดำเนินการด้านโลจิสติกส์ 

 

แล้ว Freight Forwarder นั้นคือใคร แตกต่างจากชิปปิ้งอย่างไร และมีบทบาทสำคัญอย่างไรกระบวนการโลจิสติกส์ สามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้

 

Freight forwarder คือใคร ทำอะไร?

Freight forwarder หรือ “ตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ” คือ ผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงานและจัดการการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยทั่วไปจะมอบบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การวางแผน การจัดการคลัง ไปจนถึงการจัดส่งสินค้าถึงประเทศปลายทาง

 

บทบาทสำคัญของ Freight forwarder

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Freight forwarder มีหน้าที่หลากหลายในการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยสามารถจำแนกบทบาทหน้าที่ของบริษัท Freight Forwarder ออกเป็น 3 ส่วนหลัก ดังนี้ 

 

บริหารการขนส่งสินค้า

Freight forwarder ทำหน้าที่วิเคราะห์และวางแผนเส้นทางการขนส่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสินค้าแต่ละประเภท พร้อมทั้งประสานงานกับผู้ให้บริการขนส่งทั้งทางเรือและอากาศเพื่อให้ได้ราคาค่าขนส่งที่คุ้มค่า นอกจากนี้ยังช่วยดูแลการจัดการพาเลทและชั้นวางพาเลทสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อให้การขนถ่ายสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

 

จัดการเอกสารและพิธีการศุลกากร

Freight forwarder สามารถช่วยธุรกิจในดำเนินพิธีการศุลกากรและจัดการเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในกฎระเบียบของแต่ละประเทศ โดยจะดูแลตั้งแต่การจัดเตรียมเอกสารนำเข้า-ส่งออก การดำเนินพิธีการศุลกากร ไปจนถึงการจัดเตรียมใบอนุญาตสินค้า เพื่อให้การนำเข้า-ส่งออกเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เกิดความล่าช้า หรือข้อขัดข้องตามมาภายหลัง

 

การบริการคลังสินค้า

การบริหารจัดการคลังสินค้าเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของ Freight forwarder ที่ช่วยให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะดูแลการจัดการพื้นที่จัดเก็บสินค้า ควบคุมการทำงานของโฟล์คลิฟท์ ระบบจัดการคลัง และอุปกรณ์ขนถ่ายต่าง ๆ ตลอดจนบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีความแม่นยำและตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งการบริการนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนในการจัดการคลังสินค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

 

Freight forwarder ต่างจาก Shipping อย่างไร

หลายคนอาจเข้าใจว่า Freight Forwarder และ Shipping (ชิปปิ้ง) เป็นผู้ให้บริการขนส่งเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ธุรกิจทั้งสองรูปแบบนี้มีความแตกต่างในหลายด้านที่ไม่ควรมองข้าม ได้แก่ 

ขอบเขตการให้บริการ

    • Freight Forwarder ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง
    • บริษัทชิปปิ้งมักเน้นเฉพาะการจัดการเอกสาร พิธีการศุลกากร และการส่งออก

เครือข่ายการให้บริการ

    • โดยส่วนมากบริษัท Freight Forwarder จะมีเครือข่ายโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมหลายประเทศ
    • ชิปปิ้งมักจำกัดการให้บริการอยู่ในพื้นที่หรือเส้นทางเฉพาะที่กำหนดไว้แล้ว

การบริการเสริม

    • Freight Forwarde มีบริการเสริมหลากหลาย เช่น ระบบจัดการพาเลทสำหรับจัดการสินค้าที่ต้องส่งออก รวมไปถึงการจัดการตู้คอนเทนเนอร์
    • ชิปปิ้งมักไม่มีบริการเสริมด้านการจัดการคลังสินค้า ซึ่งธุรกิจมักต้องจัดการและประสานงานเอง

 

freight forwarder

 

ประโยชน์ของการใช้บริการ Freight forwarder ต่อธุรกิจ

จากที่กล่าวมาทั้งหมด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการบริการ Freight forwarder สามารถสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจได้หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศมีความเข้มข้นมากขึ้น

เพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและการดำเนินงาน

ในแง่ของการบริหารต้นทุน Freight forwarder สามารถช่วยให้ธุรกิจประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย เนื่องจากเครือข่ายและพาร์ทเนอร์ของผู้ให้บริการที่มีมากมาย ทำให้สามารถเจรจาต่อรองราคาค่าขนส่งที่ดีกว่าได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระด้านบุคลากรและการจัดการภายในองค์กร เพราะธุรกิจไม่จำเป็นต้องจ้างทีมงานเฉพาะทางด้านโลจิสติกส์เพิ่มเติม

ลดความเสี่ยงของธุรกิจ

ด้วยความเชี่ยวชาญในกฎระเบียบการนำเข้า-ส่งออกของแต่ละประเทศ Freight forwarder สามารถช่วยป้องกันความผิดพลาดที่อาจนำไปสู่ค่าปรับหรือความล่าช้าในการขนส่ง อีกทั้งผู้ให้บริการยังสามารถดูแลจัดการและวางแผนเส้นทางขนส่งที่เหมาะสม รวมถึงแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ทำให้การดำเนินการส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น

การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยบริการครบวงจร

การบริการแบบครบวงจรของ Freight forwarder ช่วยให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือดำเนินธุรกิจด้านอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่ เช่น ระบบติดตามสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ที่ช่วยในการวางแผนรอบการผลิตและการจัดส่งได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ลูกค้าปลายทางได้ตลอดเวลา ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจอีกด้วย

 

จะเห็นได้ว่า Freight forwarder เป็นมากกว่าบริษัทผู้ให้บริการขนส่ง แต่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ช่วยให้การนำเข้า-ส่งออกเป็นเรื่องง่าย ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน โลจิสติกส์ และการบริการแบบครบวงจร ทำให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการขยายตลาด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขนส่งระหว่างประเทศ

 

นอกจากการเลือก Freight forwarder ที่เหมาะสมแล้ว ธุรกิจที่มีคลังสินค้าหรือโกดังเป็นของตัวเองยังต้องอาศัยอุปกรณ์และโซลูชันที่ทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชั้นวางพาเลท และระบบจัดการคลังสินค้าที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าและลดต้นทุนในระยะยาว 

 

บริษัท ยูพีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดจำหน่ายพาเลทพลาสติกและพาเลทไม้สำหรับเช่า/ซื้อ ชั้นวางพาเลท อุปกรณ์จัดเก็บ และอุปกรณ์โลจิสติกส์ครบครัน รวมไปถึงบริการโซลูชันด้านโลจิสติกส์ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการและผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์

 

พวกเราพร้อมให้บริการที่รวดเร็ว ครอบคลุม และเป็นมืออาชีพด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ในไทย

 

ติดต่อเรา

กรอกแบบฟอร์ม: www.upr-thailand.co.th/contact/inquiries/

โทร.: +66-2-672-5100

อีเมล: info-thailand@upr-net.co.jp  

บริษัท ยูพีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด > > สินค้าโลจิสติกส์ >

contact us ติดต่อเรา โทรหาเรา line Line Official